พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
ทิฏฐิปัตตะมีอยู่ ฯลฯ บุคคลผู้เป็นสัทธาวิมุตมีอยู่ ฯลฯ บุคคลผู้เป็นธัมมานุสารีมีอยู่
ฯลฯ บุคคลผู้เป็นสัทธานุสารี1มีอยู่ มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากบุคคลผู้เป็นสัทธานุสารีมีอยู่ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า
ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์
[203] สก. เพราะท่านเข้าใจว่า บุคคลผู้เป็นพระโสดาบันมีอยู่ จึงยอมรับว่า
ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลบางคนไม่เคยเป็นพระโสดาบันแล้วมาเป็นพระโสดาบันมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลบางคนไม่เคยเป็นบุคคลแล้วมาเป็นบุคคลมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[204] สก. บุคคลบางคนไม่เคยเป็นพระสกทาคามี ฯลฯ ไม่เคยเป็นพระ
อนาคามี ฯลฯ ไม่เคยเป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ไม่เคยเป็นอุภโตภาควิมุต ฯลฯ
ไม่เคยเป็นปัญญาวิมุต ฯลฯ ไม่เคยเป็นกายสักขี ฯลฯ ไม่เคยเป็นทิฏฐิปัตตะ ฯลฯ
ไม่เคยเป็นสัทธาวิมุต ฯลฯ ไม่เคยเป็นธัมมานุสารี ฯลฯ ไม่เคยเป็นสัทธานุสารี
แล้วเป็นสัทธานุสารีมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลบางคนไม่เคยเป็นบุคคลแล้วมาเป็นบุคคลมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[205] สก. เพราะท่านเข้าใจว่า บุคคลผู้เป็นพระโสดาบันมีอยู่ จึงยอมรับว่า
ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ ใช่ไหม
ปร. ใช่
เชิงอรรถ :
1 คำแปลและความหมายของคำเหล่านี้ ดูใน อภิ.ปุ. (แปล) 36/24-30/153-154
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 1. ปุคคลกถา
สก. บุคคลบางคนเคยเป็นพระโสดาบันแล้วไม่เป็นพระโสดาบันมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลบางคนเคยเป็นบุคคลแล้วไม่เป็นบุคคลมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลบางคนเคยเป็นพระสกทาคามี ฯลฯ เคยเป็นพระอนาคามีแล้ว
ไม่เป็นพระอนาคามีมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลบางคนเคยเป็นบุคคลแล้วไม่เป็นบุคคลมีอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปฏิเวธานุโยคะ จบ
20. สังฆานุโยคะ
ว่าด้วยการซักถามถึงสงฆ์
[206] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. อริยบุคคล 4 คู่ คือ 8 บุคคล มีอยู่มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากอริยบุคคล 4 คู่ คือ 8 บุคคลมีอยู่ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า
ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์
[207] สก. เพราะท่านเข้าใจว่า อริยบุคคล 4 คู่ คือ 8 บุคคล มีอยู่
จึงยอมรับว่า ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ ใช่ไหม
ปร. ใช่